Verb to be มีหลักการใช้ ดังนี้
1. ถ้าเป็นกริยาสำคัญในประโยค มีความหมายว่า
เป็น อยู่ คือ
2. ใช้วางข้างหน้า
กลุ่มคำ adjective ( คำคุณศัพท์ )
3. ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค
Continuous ( ประโยคที่มี กริยา ing )
4. ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค
Passive Voice
( ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ )
หลักการใช้กับประธานในประโยค
1. ถ้าประธานที่เป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3
ซึ่งได้แก่ He She
It หรือ
ชื่อคนคนเดียว
สัตว์ตัวเดียว
และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง Verb to
be ที่ใช้ คือ is เช่น
*He is a
teacher.
*Sam is a singer
*She is in
the room. *My father
is sleeping.
*It is a
dog.
*The pencil is
on the table
2. ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 1
( ผู้พูดคนเดียว ) ซึ่งได้แก่ I
Verb to be ที่ใช้ คือ am
*I am a
student.
* I am
under the table.
3. ประธานเป็นพหูพจน์ทุกบุรุษ ซึ่งได้แก่
We You They หรือ
ชื่อคนหลาย
สัตว์หลายตัว และสิ่งของหลายอันที่ถูกกล่าวถึง Verb
to be ที่ใช้ คือ
are เช่น
*We are nurses. *My father
and I are
in the room.
*They are policemen. *Suda and her
friends are under
the tree.
*You are very
good. *The players
are in the
playground.
การสร้างประโยคที่มี Verb to
be ให้เป็นประโยคปฏิเสธ.
มีวิธีการดังนี้
เติม not ลงไปในตำแหน่งที่เรียงต่อจาก Verb to
be หลัง is
am are เช่น
*He is not
in the room. *I am
not a child.
*They are not
teachers. *Suda is
not reading.
หมายเหตุ รูปย่อของ ปฏิเสธ Verb to
be คือ is
not ย่อเป็น isn’t
am not จะไม่ใช้รูปย่อ are not ย่อเป็น aren’t
การทำประโยคที่มี Verb to be ให้เป็นประโยคคำถาม
Yes No Question
มีหลักการดังนี้
เอา Verb to
be มาวางหน้าประโยค และเอาประธานของประโยคมาวาง
เรียงต่อจากVerb to
be หลังจบประโยค ต้องใส่เครื่องหมายคำถาม เช่น
He is in
the room. เปลี่ยนเป็น Is
he in the
room ?
They are soldiers
เปลี่ยนเป็น
Are they soldiers?
I am
a boy. เปลี่ยนเป็น Am I a boy
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น